การแพ้ยา ( Drug Hypersensitivity )
คือ ปฏิกิริยาที่ร่างกายตอบสนองต่อยา อันเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายประเมินผลว่า ยาที่เข้าสู่ร่างกายขณะนั้น คือสิ่งแปลกปลอม ทำให้เกิดปฏิกิริยาบางอย่างซึ่งเกิดผลตอบสนองในทางลบต่อร่างกาย ในที่นี้ขอแบ่งผลตอบสนองเป็น 2 ระดับ คือ
1.ผลตอบสนองแบบไม่รุนแรง ได้แก่ การเกิดผื่นแดงกระจายทั่วร่างกาย บางรายมีอาการคล้ายลมพิษ มีอาการคัน
2.ผลตอบสนองแบบรุนแรง ได้แก่ ริมฝีปากบวม หนังตาบวม หน้าบวม เกิดอาการใจสั่น แน่นหน้าอก คลื่นไส้อาเจียน หายใจขัด บางรายหายใจมีเสียง" วี๊ด"( Wheeze ) เนื่องจากเยื่อบุผนังหลอดลมเริ่มบวม บางรายอาจตรวจพบชีพจรเต้นเบาและเร็ว ความดันต่ำ
หากท่านเกิดอาการแพ้ยา แบบไม่รุนแรง อย่าเพิ่งตกใจจนทำอะไรไม่ถูก สิ่งแรกที่่ท่านต้องทำคือ ตั้งสติ " สติ มา ปัญญา เกิด " เมื่อเกิดปัญญาแล้ว ท่านก็จะรู้ว่าต้นเหตุของปัญหา ก็คือ ยาที่ท่านกำลังรับประทานอยู่ขณะนั้น (ไม่ใช่ว่ายาทุกตัวจะทำให้ท่านแพ้ เดี๋ยวจะเสียโอกาสในการใช้ยา ) ท่านต้องหยุดรับประทานยาทันทีที่เกิดอาการ แล้วรีบปรึกษาเภสัชกรใกล้บ้านเพื่อคำแนะนำที่ถูกต้อง หรือปรึกษาแพทย์ผู้สั่งจ่ายยาให้ท่าน แต่อย่าลืมนำยาที่ท่านได้รับครั้งล่าสุดที่คาดว่าแพ้ ไปให้เภสัชกร หรือแพทย์ได้ตรวจสอบ และลงประวัติการแพ้ยาของท่านด้วยล่ะ
แต่ในกรณีเกิดอาการแพ้ยา แบบรุนแรง ท่านต้องรีบบอกญาติให้พาไปโรงพยาบาลโดยด่วน เพื่อสังเกตุอาการ และได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากบุคลากรทางการแพทย์ จนกว่าจะแน่ใจว่าปลอดภัยแล้ว
ภก.คณิต แพทย์โอสถ
คือ ปฏิกิริยาที่ร่างกายตอบสนองต่อยา อันเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายประเมินผลว่า ยาที่เข้าสู่ร่างกายขณะนั้น คือสิ่งแปลกปลอม ทำให้เกิดปฏิกิริยาบางอย่างซึ่งเกิดผลตอบสนองในทางลบต่อร่างกาย ในที่นี้ขอแบ่งผลตอบสนองเป็น 2 ระดับ คือ
1.ผลตอบสนองแบบไม่รุนแรง ได้แก่ การเกิดผื่นแดงกระจายทั่วร่างกาย บางรายมีอาการคล้ายลมพิษ มีอาการคัน
2.ผลตอบสนองแบบรุนแรง ได้แก่ ริมฝีปากบวม หนังตาบวม หน้าบวม เกิดอาการใจสั่น แน่นหน้าอก คลื่นไส้อาเจียน หายใจขัด บางรายหายใจมีเสียง" วี๊ด"( Wheeze ) เนื่องจากเยื่อบุผนังหลอดลมเริ่มบวม บางรายอาจตรวจพบชีพจรเต้นเบาและเร็ว ความดันต่ำ
หากท่านเกิดอาการแพ้ยา แบบไม่รุนแรง อย่าเพิ่งตกใจจนทำอะไรไม่ถูก สิ่งแรกที่่ท่านต้องทำคือ ตั้งสติ " สติ มา ปัญญา เกิด " เมื่อเกิดปัญญาแล้ว ท่านก็จะรู้ว่าต้นเหตุของปัญหา ก็คือ ยาที่ท่านกำลังรับประทานอยู่ขณะนั้น (ไม่ใช่ว่ายาทุกตัวจะทำให้ท่านแพ้ เดี๋ยวจะเสียโอกาสในการใช้ยา ) ท่านต้องหยุดรับประทานยาทันทีที่เกิดอาการ แล้วรีบปรึกษาเภสัชกรใกล้บ้านเพื่อคำแนะนำที่ถูกต้อง หรือปรึกษาแพทย์ผู้สั่งจ่ายยาให้ท่าน แต่อย่าลืมนำยาที่ท่านได้รับครั้งล่าสุดที่คาดว่าแพ้ ไปให้เภสัชกร หรือแพทย์ได้ตรวจสอบ และลงประวัติการแพ้ยาของท่านด้วยล่ะ
แต่ในกรณีเกิดอาการแพ้ยา แบบรุนแรง ท่านต้องรีบบอกญาติให้พาไปโรงพยาบาลโดยด่วน เพื่อสังเกตุอาการ และได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากบุคลากรทางการแพทย์ จนกว่าจะแน่ใจว่าปลอดภัยแล้ว
ภก.คณิต แพทย์โอสถ